วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

70สิ่งที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน

70 สิ่งที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน


 *******************************************

 1.ยุงบินด้วยความเร็ว 5 ไมล์ต่อชั่วโมง...

 2.ผีเสื้อบินด้วยความเร็ว 20 ไมล์ต่อชั่วโมง...

 3.เส้นผมคนรับน้ำหนักได้ 3 กิโลกรัม...

 4.เสียงกรนที่ดังที่สุดดังถึง 87.5 เดซิเบลล์

 5.พอล แมคคาร์ที เป็นเจ้าของลิขสิทธิเพลงแฮป X เบิร์ดเดย์ ถ้าจะนำมาออกรายการต้องซื้อลิขสิทธิก่อน...

 6.เหรียญทองโอลิมปิกต้องมีแร่เงินผสมอยู่ 92.5 เปอร์เซนต์...

 7.หอเอนเมืองปิซาเอนไปทางใต้...

 8.กษัตริย์หลุยส์ที่ 14 อาบน้ำทั้งหมด 3 ครั้งในชีวิต...

 9.ฮิตเลอร์แสกผมข้างซ้าย...

 10.ผู้หญิงที่เกาะฮาวายที่ทัดดอกไม้ที่หูข้างซ้าย แสดงว่ามีเจ้าของแล้ว...



 11.เราไม่สามารถฆ่าตัวตายด้วยการกลั้นหายใจได้...

 12.ผู้หญิง 3.9 เปอร์เซนต์ไม่ชอบใส่กางเกงใน...

 13.ฮิปโปผายลมทางปาก...

 14.ประเทศซาอุดิอราเบียไม่มีแม่น้ำ...

 15.กังหันทั้งโลกหมุนทวนเข็มนาฬิกา ยกเว้นที่ไอร์แลนด์...

 16.เด็กนักเรียนอายุ15 ปีขึ้นไปในบังคลาเทศจะถูกจับเข้าคุกถ้า"โกงข้อสอบ"...

 17.ปลาที่อาศัยในน้ำลึกเกิน 800 เมตร จะไม่มีตา...

 18.ผมคนเราจะร่วงประมาณ 200 เส้นต่อวัน...

 19.ตัว"โอ"เป็นสระที่เก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ...

 20.คนพูดประมาณ 120 คำต่อนาที



 21.ฝ่ามือและฝ่าเท้าของคนเราไม่สามารถไหม้ได้...

 22.เม่นชอบช่วยตัวเอง...

 23.ถ้าปลาไหลไฟฟ้าอยู่ในน้ำเค็ม จะถูกช็อตตาย...

 24.ขั้นบันไดในไทยจะเป็นเลขคี่...

 25.เจ้าฟ้าชายชาลส์ชอบสะสมฝาโถส้วม...

 26.คนมีโอกาสตายจากผึ้งต่อยมากกว่างูกัด...

 27.ประเทศวาติกันมีประชากรประมาณ 1000 คน

 28.เมื่อคุณจาม หัวใจคุณจะหยุดเต้นเสี้ยววินาที

 29.มันเปนไปมะได้อ่ะคับ ถ้าคุณจะจามโดยไม่หลับตา

 30.เดิมโคคาโคล่าเป็นสีเขียว



 31.ชื่อที่โหลที่สุดในโลกคือ Mohammed

 32.กล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดในร่างกายคือลิ้น

 33. แต่ละโพหลังไพ่ แสดงถึงกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่จากประวัติศาสตร์ - โพดำกษัตริย์เดวิด - ดอกจิก อเล็กซานเดอร์มหาราช - โพหัวใจ ชาร์ล เลอ มาญ - ข้าวหลามตัด จูเลียส ซีซาร์

 34. อนุสาวรีย์ของใครสักคนที่อยู่บนหลังม้า และม้ายกสองขาขึ้นบนอากาศแปลว่าคนนั้นตายในสงคราม

 35.ถ้าม้ายกขาข้าเดียวแปลว่า เขาบาดเจ็บในสงคราม และตายจากการบาดเจ็บนั้น

 36.ถ้าทั้งสี่ขาของม้าอยู่บนพื้น แสดงว่าตายโดยธรรมชาติ

 37.ใน 4000 ปีที่ผ่านมา ไม่มีสัตว์ชนิดใหม่ๆที่ถูกทำให้เชื่อง

 38.เชคสเปียร์ เป็นคนคิดค้นคำว่า assassination (การลอบฆ่า) และ bump (ชน กระทบ)

 39.หัวใจมนุษย์สร้างความดันเพียงพอที่จะปั๊มเลือดออกจากร่างกายไป 30 ฟุต

 40. หนูสามารถสืบพันธ์ได้เร็มาก ใน 18 เดือน หนูสองตัวจะสามารถมีทายาทมากกว่าล้านตัว



 41.การใส่หูฟังแค่ชั่วโมงเดียว ทำให้แบคทีเรียในหูเพิ่มขึ้น700 เท่าตัว

 42.ลิปสติกส่วนใหญ่มีส่วนประกอบของเกล็ดปลา

 43.เหมือนกับลายนิ้วมือ....ลายลิ้นทุกคนต่างกัน

 44.นิตยสาร time ได้ยกย่องให้คอมพิวเตอร์เป็นบุคคลแห่งปีในปีค.ศ.1982

 45.สถิติจูบนานที่สุดในโลกเป็นของหลุยซา แอลเมโดวาร์ วัย 19 ปีกับแฟนหนุ่ม ริชแลงเลย์ วัย 22 ปีพวกเขาทำสถิติไว้ที่ 30.59.27 ชม.

 46.ตอนที่ f4 ไปเปิดคอนเสิร์ตที่อินโดนีเซียทำให้เด็กนักเรียนเกือบ100 คน ต้องเรียนซ้ำชั้น เพราะไม่ได้ไปลงทะเบียนเรียนเทอม 2

 47.บริษัทผู้ผลิตยาสีฟันดาร์ลี่เป็นเจ้าของเดียวกันกับที่ผลิตยาสีฟันคอลเกต

 48.โดนั ลด์ ดักส์ ถูกแบนในประเทศฟินแลนด์ เพราะมันไม่ได้สวมกางเกงใน

 49. ภาพยนต์เรื่อง nothing hill จ่ายค่าตัวจูเลีย โรเบิร์ต 15ล้านเหรียญ ( 660 ล้านบาท ) ในขณะที่พระเอกอย่างฮิว แกรนจ์รับค่าตัวเพียง 1 ล้านเหรียญ ( 45 ล้านบาท)

 50.หนังอนิเมชันเรื่อง SouthPark ได้รับการบันทึกลงในหนังสือกินเนสส์บุ๊กว่าเป็นหนังอนิเมชั่น เรื่องยาวที่หยาบคายที่สุดในโลกสถิติบันทึกไว้ว่า มีการใช้คำหยาบ 399 คำ พฤติกรรมรุนแรง 221 ครั้ง และแสดงท่าทางหยาบคาย 128 ครั้ง



 51.ขนมทอดกรอบตรา ปูไทย ระบุว่าไม่มีส่วนผสมของเนื้อปู

 52.ในน้ำทะเล 100 ตัน จะมีทองคำอยู่ประมาณ 4 กรัม

 53.จำนวนแถวของข้าวโพดในแต่ละฝักจะเป็นเลขคู่

 54.จิงโจ้เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดเดียวที่เดินถอยหลังไม่ได้

 57.ยุงชอบเลือดเด็กมากกว่าเลือดผู้ใหญ่

 58.แมงมุมทอดรสชาติเหมือนถั่ว

 59.ฟันของแมลงสาบอยู่ในท้อง

 60.เม่นทุกตัวลอยน้ำได้



 61.หมู มีโอกาสเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง

 62.นอกจากมนุษย์แล้ว หมีขั้วโลกและจิงโจ้ต่างก็จูบเป็น ส่วนลิงชิมแปนซีนั้นจูบแบบ "เฟรนช์คิส" ได้ด้วย

 63.คนถนัดขวามีอายุเฉลี่ยยืนยาวกว่าคนถนัดซ้ายถึง 9 ปี

 64.Hippopotomonstrsesquippedaliophobia คือ ชื่ออาการของคนที่หวาดกลัวคำอ่านยาวๆ

 65.ผู้ที่เกิดเดือนมกราคม - มีนาคม มีแนวโน้มเป็นโรคจิตและโรคคลั่งมากกว่าเดือนอื่นๆ

 66.แก้วไม่ได้เป็นของเเข็ง เเต่เปนของเหลว

 67.สมองคนเราหนักประมาณ 3% ของน้ำหนักของร่างกาย แต่ใช้เลือดไปเลี้ยงถึง 15% ของเลือดทั้งหมด

 68.เลือดของกุ้งมังกรเปนสีน้ำเงิน

 69.อูฐสามารถหมุนหัว 180 องศา

 70. รู้หรือเปล่าว่าเว็บgoogleไม่ได้มีประโยชน์แค่หาข้อมูล แต่เป็นเครื่องคิดเลขได้ (ลองใส่ 5+2 หรือเลขอะไรก้อได้ในช่อง แล้วกด Search ดูสิ)

เครดิต : http://www.thaireaderclub.com

สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เรื่องลับที่ซ่อนเร้น


430
       สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติกฝั่งตะวันตก โดยพื้นที่ทั้งหมดเริ่มจากทางตอนเหนือของเบอร์มิวดา ไปจนถึงตอนใต้ของรัฐฟลอริดา และจากรัฐฟลอริดามุ่งหน้าไปทางตะวันออกทำมุมสี่สิบห้าองศากับเส้นรุ้ง ผ่านบาฮามัสและเปอร์โตริโก และวกกลับไปทางตอนเหนือของเบอร์มิวดา บรรจบกันเป็นรูปร่างสามเหลี่ยม 


       เรื่องราวลี้ลับจำนวนมากเกิดขึ้นในบริเวณดินแดนอาธรรพ์แห่งนี้ ลัง จากปี ค.ศ. 1945 มีเรื่องราวบันทึกจำนวนไม่น้อยเกี่ยวกับการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของ เครื่องบินกว่า 100 เครื่อง และ เรือเดินสมุทร เรือขนส่งสินค้าอีกหลายต่อหลายลำ โดยทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่มีการทิ้งร่องรอยไว้ให้เห็น ทั้งซากเครื่องยนต์ ซากเรื่อ แม้แต่...ซากศพ ของผู้สูญหาย ก็ไม่มีเหลือให้เห็น เหมือนกับว่าได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ในปี ค.ศ. 1962 การหายสาบสูญของฝูงบิน 19 ได้ปรากฎในนิตยสารอเมริกันลีเจียน ฉบับประจำเดือนเมษายน ค.ศ. 1962 โดยกล่าวอ้างว่าผู้บังคับฝูงบินได้กล่าวว่า "เรากำลังเข้าสู่เขตน้ำขาว ไม่มีอะไรดูปกติเลย เราไม่รู้ว่าเราอยู่ที่ไหน น้ำทะเลเป็นสีเขียว ไม่ใช่สีขาว"

431

        หลังจากนั้นเป็นต้นมา ได้มีการตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าอีกจำนวนมาก และแทบทุกเล่มมุ่งประเด็นไปยังมุมมองที่ว่า เบื้อง หลังของการสูญหายนี้ มาจากเทคโนโลยีของสิ่งทรงภูมิปัญญามากกว่าประเด็นอื่น เช่นมาจากมนุษย์ต่างดาว หรือมนุษย์ที่อาศัยอยู่ใต้มหาสมุทรบริเวณนั้น ต่างก็หาหลักฐานและทฤษฎี มาถกเถียงกันและที่ตัดทิ้งเสียไม่ได้ก็คือความจริงที่ว่า บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา มีอาณาบริเวณที่กว้างมากจาก ฟลอริด้า-เปอร์โต ริโก-เกาะเบอร์มิวดา กินพื้นที่ประมาณห้าแสนตารางไมล์ เพราะฉะนั้นการจะค้นหาอะไรๆ จากสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็มีองค์กรของรัฐ เอกชน ต่างให้ความสนใจในการสำรวจ โดยหวังว่าจะเจอหลักฐานอะไรก็ตามที่นำมาใช้ไขปริศนาของดินแดนบริเวณนี้ได้




432
      
      

          ในท้องทะเลนอกฝั่งบาฮามัสมีสิ่งแปลกประหลาดอยู่สิ่งหนึ่งที่นักประดาน้ำ มักจะพบเห็นอยู่บ่อย ๆ ซึ่งพวกเขาเรียกว่า "ปล่องน้ำเงิน" จะปรากฏอยู่ตามหุบผาใต้น้ำและแหล่งหินประการัง มีลักษณะเป็นอุโมงค์หรือปล่องใต้ทะเล โดยทั่วไปเป็นที่อยู่ของปลาที่ไม่ค่อยได้พบกันที่ผิวน้ำ ปล่องเหล่านี้เชื่อว่า เกิดจากถ้ำหินประการังถูกกัดกร่อนด้วยกระแสน้ำใต้ทะเลมาเป็นเวลานับหมื่นปี เคย มีนักประดาน้ำดำลงไป สำรวจปล่องต่างๆ นี้ พบว่าปล่องจำนวนมากต่างมีทางแยกออกไปในหลายทิศทาง ทำให้ปลาที่ว่ายวนอยู่ในนั้นเกิดสับสนถึงกับว่ายเอาครีบท้องขึ้นสู่เบื้องบน ยิ่งกว่านั้นยังพบว่ากระแสน้ำไหลเชี่ยวแรงเข้าสู่ส่วนลึกคล้ายถูกดูดด้วย กำลังอันมหาศาลซึ่งเป็นอันตราย ต่อนักประดาน้ำมาก และลักษณะการณ์เช่นนี้ทำให้น้ำบริเวณปากปล่องไหลวนเข้าไปภายในอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดการหมุนเป็นกรวยเหนือพื้นน้ำในลักษณะของวังน้ำวน ซึ่งสามารถจะดึงดูดเรือเล็กพร้อมด้วยคนบนเรือ ลงสู่ก้นมหาสมุทรอย่างรวดเร็ว

433

      

          อีกทฤษฏีหนึ่ง เป็นทฤษฏีเกี่ยวกับลมพายุทอนาโดซึ่งเกิดเป็นครั้งคราว จะกวาดเรือและเครื่องบิน ให้จมลงสู่ก้นมหาสมุทรได้ไม่ยาก พายุทอร์นาโด เป็นพายุหมุนปั่นเอาน้ำทะเลหมุนเป็นเกลียวสูงนับร้อยๆ ฟุต กลาง อากาศและหากมันเกิดตอนกลางคืน เครื่องบินที่บินอยู่ระดับต่ำอาจถูกกระแทกตกลงสู่ทะเลได้ ก็เพราะนักบินไม่สามารถจะมองเห็นได้ในระยะไกล ส่วนเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ที่จมหายนั้น เชื่อว่าอาจจะเกิดจากกระแสคลื่นมหึมา ที่เป็นผลมาจากแผ่นดินไหวใต้ทะเลก็ได้ เพราะคลื่นที่เกิดจากปรากฏการณ์เช่นนี้จะมีความสูงร่วมร้อยฟุตเลยที่เดียว แต่อย่างไรก็ตามทอนาโด ต้องไม่ใช่สาเหตุของทุก ๆ กรณีที่เกิดขึ้นในสามเหลี่ยมเบอมิวดาอย่างแน่นอน

434



        ปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่อาจเป็นอันตรายต่อเครื่องบินได้ คือ การผันแปรของอากาศอย่างทันทีทันใด ที่เรียกกันว่า "แค๊ท (Cat - clear air turbulenec)" โดย ทั่วไปแล้ว "แค๊ท" จะเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่อาจจะคาดคะเน หรือทำการพยากรณ์ได้เช่นเดียวกับลักษณะภูมิอากาศ โดยทั่วไปมันจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกสภาวะอากาศ สาเหตุของปรากฏการณ์นี้ยังไม่ทราบกันแน่ชัด แต่เชื่อกันว่าหากมันเกิดขึ้นขณะที่กระแสลมพัดแรงและรวดเร็ว จะทำให้เกิดสูญญากาศบริเวณนั้นทันที ซึ่งหากเครื่องบินได้บินเข้าสู่บริเวณของมันก็อาจจะตกดิ่งสู่ทะเลได้ง่าย แต่อย่างไรก็ดี การผันแปรวิปริตของบรรยากาศทันทีทันใดแต่.. ปรากฏการณ์ "แค๊ท" จะไม่เป็นผลต่อการทำงานของเครื่องวัดต่างๆ และระบบการติดต่อทางวิทยุบนเครื่องบิน แต่ทุกครั้งที่เกิดเหตุ จะปรากฏว่าการติดต่อทางวิทยุได้เงียบหายไป

435


          การแปรผันของสนามแม่เหล็กโลก ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตกได้เช่นเดียวกัน เพราะมันจะทำให้เกิดการผิดพลาดในการทำงานของเครื่องวัดระดับ และเข็มทิศประจำเครื่องอาจ เป็นไปได้ว่า เครื่องบินและเรือเหล่านั้น ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปยังอีกมิติหนึ่งด้วยการกระทำของสิ่งมีชีวิตที่มีปัญญา สูง เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง หรือที่มากไปกว่านั้น การเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กโลกที่บริเวณนั้น ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางมิติเวลา ทำให้เครื่องบินและเรือเดินสมุทร เมื่อเดินทางเข้าสู่บริเวณนั้น ถูกผลกระทบจากการแปรปรวนของสนามแม่เหล็กโลก ทำให้หลุดจากมิติหนึ่ง ไปยังอีกมิติหนึ่งก็เป็นได้ 

436



        ในปี พ.ศ. 2553 โจเซฟ โมนาแกน ได้เสนอว่า สาเหตุที่เรือจมและเครื่องบินตก เกิดจากแก๊สมีเทนที่ก่อตัวขึ้น โดยแก๊สดังกล่าวอยู่ใต้ท้องทะเลในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา โดย เมื่อแก๊สเหล่านี้ขึ้นสู่พื้นผิว มันจะทะยานสู่อากาศ และขยายตัวเป็นวงกว้างและก่อตัวเป็นฟองแก๊สขนาดใหญ่ เมื่อเรือลำใดผ่านเข้าไปในบริเวณนั้น ก็จะเข้าไปสู่ฟองแก๊สมีเทนขนาดยักษ์ จนทำให้เรือเหล่านี้สูญเสียการควบคุม และจมลงในที่สุด เพราะหากวิเคราะห์ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับการหาบสาบสูญของเรือเดินสมุทรและ เครื่องบินในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา จะ พบว่าเมื่อนำขนาดของเครื่องบินและเรือเดินสมุทร ไปเปรียบเทียบกับความกว้างใหญ่สุดคณานับของพื้นมหาสมุทรโลกแล้ว ก็เปรียบเสมือนฝุ่นละอองที่ล่องลอย อยู่ในห้องโถงใหญ่ และด้วยการที่น้ำในมหาสมุทรก็ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ แต่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด โดยกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม มีอัตราความเร็วกว่าสี่ไมล์ต่อชั่วโมง คงทำให้มีการพัดพาชิ้นส่วนกระจัดกระจาย และไม่สามารถตามหาได้ทั้งหมดทั้งสิ้น

437


           ไม่ว่าสามเหลี่ยมเบอมิวดา จะเป็นดินแดนอาธรรพ์ ดินแดนแห่งปีศาจ หรือไม่ได้มีความลึกลับแต่อย่างใดก็ตาม เราก็ยังมีสิทธิที่จะจิตนาการ และศึกษาหลาย ๆ ทฤษฎี โดยไม่จำเป็นต้องปักใจเชื่อ สิ่งใดสิ่งหนึ่งจากการกล่าวของคนเพียงคนเดียวเสมอไป เพราะเราต้องศึกษาโลกใบนี้ต่อไป

 

วิธีคลายง่วงช่วงบ่าย

     หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มักหาวแล้ว หาวอีก ต้องทนทรมานกับความง่วงช่วงบ่ายบ่อย ๆ ทำให้เสียสมาธิในการเรียน หรือ ทำงาน นั่นเป็นเพราะมื้อกลางวันรับประทานอาหารอุดมแป้ง และน้ำตาลขัดขาวมากเกินไป ลองลดปัจจัยดังกล่าว แล้วเพิ่มปริมาณผัก ผลไม้ รวมทั้งธัญพืชเยอะขึ้นอีก จากนั้น คอยสังเกตความเปลี่ยนแปลง


โดย ผัก-ผลไม้อุดมวิตามินซี” จำพวก บรอกโคลี ฝรั่ง ส้ม จะช่วยต้านความล้าจากอาการเครียด และกังวล ส่วนแอปเปิล กล้วย มีโครเมียม ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มพลังงานแก่ร่างกาย ส่วน “ธัญพืช” เช่น งา ถั่วเมล็ดแห้ง ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ซึ่งไม่ผ่านการขัดสี หรือ ขัดสีน้อยที่สุด จะให้วิตามิน และแร่ธาตุที่มีประโยชน์ บำรุงประสาท และช่วยให้จิตใจแจ่มใสสดชื่น
นอกจากนั้น อาจเปลี่ยนอิริยาบถโดยการ ลุกเดิน” ด้วย ระยะก้าวปานกลาง นานประมาณ 3-5 นาที ก็เป็นอีกวิธีในการคลายง่วงได้ เนื่องจากช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต คลื่นสมองทำงานดีขึ้น ร่างกายรู้สึกตื่นตัว
ทั้งนี้ หากทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ควรหมั่นพักสายตาทุก 1ชั่วโมง” โดยหลับตา หรือ มองไปไกลๆ ประมาณ 5 นาที อาจใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ประคบดวงตา ประมาณ 2-3 นาที จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา และทำให้เลือดหมุนเวียนมาเลี้ยงดวงตาได้ดี ทั้งยังคลายง่วง และลดการเพลียตา เพราะแสงจากหน้าจอ
รวมทั้ง อย่าลืมมีน้ำดื่มติดโต๊ะ” ค่อยๆ จิบระหว่างวัน ทั้งนี้ ควรเป็นน้ำอุณหภูมิห้อง เพื่อร่างกายจะดูดซึมไปใช้ในระบบหมุนเวียนเลือดได้ทันที ช่วยเพิ่มความสดชื่น และกระปรี้กระเปร่า
เป็นวิธีง่ายๆ ช่วยให้สดชื่นตื่นตัวได้ โดยไม่พึ่งกาแฟ ลองนำไปประยุกต์ใช้กันดู
 
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

 

9 สุดยอดสัตว์มีพิษที่อันตรายที่สุดในโลก 

  ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน ทำให้ภาพของการล่าเนื้อของสัตว์ใหญ่อย่าง สิงโต หรือ เสือ เป็นภาพที่เลือนลางไปจากสังคม มนุษย์เราสามารถใช้ชีวิตได้ โดยไม่ต้องเกรงกลัวอันตรายจากสัตว์ใด ๆ    อย่างไรก็ตามแม้เราจะหลีกพ้นจากสัตว์ใหญ่ แต่ยังมีสัตว์เล็กมากมายที่มีพิษร้ายแบบที่คุณประมาทไม่ได้ เพราะหากคุณประมาทมันอาจสร้างความสูญเสียให้กับคุณอย่างมหาศาล ทั้งต่อร่างกายและชีวิต และนี่คือ  9 อันดับสัตว์มีพิษที่อันตรายที่สุดในโลก มาฝาก



อันดับ 9 Puffer Fish - ปลาปักเป้า
          ปลาปักเป้า คือสัตว์มีพิษที่มีคนนิยมบริโภคมาก โดยเฉพาะในแถบประเทศญี่ปุ่น (ปลาปักเป้าภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "ฟูกุ" ) และเกาหลี (ในส่วนของภาษาเกาหลีจะเรียกว่า "บ๊อค ฮัง")โดยเนื้อปลาปักเป้านั้นจริงๆแล้ว ไม่ได้มีพิษ แต่ส่วนที่มีพิษก็คือพวกผิวหนังและเครื่องในของปลาปักเป้านั่นเอง แต่พิษเหล่านี้มักจะซึมเข้าไปในเนื้อตอนแล่ พ่อครัวที่จะแล่ปลาปักเป้าต้องมีใบอนุญาติกันเลย ถ้าหากกินพิษของปลาปักเป้าไป อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ในทันที

อันดับที่ 8 Poison Dart Frog - กบลูกดอก
          กบลูกดอกสีน้ำเงินนั้นเป็นสัตว์ที่อยู่ในป่าฝนในทวีปอเมริกากลาง และ ใต้ เป็นกบที่มีสีสันสวยงามแต่พิษของมันร้ายแรงมาก พิษของกบลูกดอก 1 ตัว สามารถฆ่าคนได้ถึง 10 คนและหนูถึง 20000 ตัว พิษของมันเพียง 5 ไมโครกรัม ( เท่ากับปลายเข็ม) ก็สามารถฆ่าคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ๆได้ พิษของมันถูกนำมาใช้ในลูกดอกอาบยาพิษของอินเดียแดง มันจึงถูกเรียกว่ากบลูกดอก

อันดับที่ 7 Inland Taipan -งูไทปันโพ้นทะเล
          งูไทปันถูกพบได้มากในทวีปออสเตรเลีย เป็นงูที่มีพิษร้ายแรงมาก พิษที่มันปล่อยออกมาจากการกัดหนึ่งครั้ง สามารถฆ่าคนได้ถึง 100 คน หรือหนู 250000 ตัว พิษของมันสามารถฆ่าคนได้ภาพใน 45 นาที แต่อย่างไรก็ตาม งูไทปันเป็นงูที่ค่อนข้างขี้อาย ไม่เคยมีการบันทึกว่ามีคนตายจากพิษของมัน

อันดับที่ 6 The Brazilian wandering spider - แมงมุมบราซิล
          แมงมุมบราซิลหรือแมงมุมกล้วย ได้รับการบันทึกลงในกินเนสเวิลด์เรคคอรด์ว่าเป็นแม่งมุมที่มีพิษร้ายแรงที่ สุดในโลก พิษของมันมีพิษทำลายประสาท พวกมันจะอันตรายอย่างมาก เพราะโดยนิสัยของมันแล้วมันชอบแอบอยู่ตามรองเท้า ตู้เสื้อผ้า แม้กระทั่งในรถยนต์ พิษของมันถ้าโดนกัดนอกจากจะทำให้เจ็บปวดอย่างมากแล้ว มันจะทำให้อวัยวะเพศของเราควบคุมไม่ได้ และ ถ้ารอดตายจากการโดนมันกัด มันก็จะทำให้เราเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ



อันดับ 5 Stonefish - ปลาหิน
          ถ้าแข่งกันในเรื่องของความสวยงามแล้ว ปลาหิน ท่าทางจะแพ้อย่างขาดลอย แต่ถ้าแข่งกันเรื่องความรุนแรงของพิษแล้วละก็ เจ้าปลาหินไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มันได้ชื่อว่าเป็นปลาที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก พิษของปลาหินนี้จะอยู่ในหนามของตัวมันเอง มีคนบอกว่า ถ้าคุณโดนมันแทงเข้าละก้อ คุณจะได้ลิ้มรสความเจ็บปวดเท่าที่มนุษย์จะเจ็บได้เลยทีเดียว นอกจากจะเจ็บสุดๆแล้ว มันจะทำให้คุณเป็นอัมพาต แล้วก็ตายได้ในที่สุด

อันดับที่ 4 ได้แก่ Death Stalker Scorpion -แมงป่องพันธุ์ เดธท์ สตอลเกอร์
          แมงป่องโดยทั่วไปนั้น ถึงแม้ว่าจะโดนกัด พิษของมันก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรมนุษย์ได้มากนัก
อาจจะเจ็บปวดนิดหน่อย แต่.....มันไม่ใช่สำหรับแมงป่องพันธุ์ เดธท์ สตอลเกอร์ เลย เพราะพิษของมันสามารถทำลายระบบประสาทได้ ถ้าคุณโดนมันกัด คุณจะปวดอย่างมหาศาล จากนั้นจะตามมาด้วยอาการไข้ขึ้น เป็นอัมพาต และตายในที่สุด แต่ถึงแม้พิษมันจะร้ายแรงมาก แต่มันก็ไม่สามารถฆ่ามนุษย์ที่เป็นผู้ใหญ่ได้ แต่ว่ามันจะเป็นอันตรายต่อเด็ก ทารก คนแก่ อย่างมาก ถึงแม้ว่ามันไม่สามารถที่จะฆ่าผู้ใหญ่ได้ แต่มันก็ทำให้เป็นอัมพาตได้นะ

อันดับที่ 3 Blue-Ringed Octopus - ปลาหมึกแหวนน้ำเงิน
          ปลาหมึกแหวนน้ำเงินนั้นมีขนาดที่เล็กมาก ขนาดประมาณลูกกอลฟ์เท่านั้นเอง แต่ขนาดไม่ใช่ปัญหาสำหรับความรุนแรงของพิษมันเลย เพราะพิษมันสามารถฆ่าคนได้ภายในไม่กี่นาที และที่สำคัญมันยังไม่มียาแก้พิษ ถ้าโดนปลาหมึกแหวนน้ำเงินกัดละก็ คุณจะไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากหรอก แต่ว่าพิษมันจะเริ่มทำลายระบบประสาทของคุณ หลังจากนั้นคุณจะรู้สึกอ่อนแอ และคุณก็จะเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ระบบหายใจการจะเริ่มล้มเหลว หลังจากนั้น ก็ตายในที่สุด

อันดับที่ 2 Marbled Cone Snail -หอยเต้าปูนลายหินอ่อน
          หอยเต้าปูน ตัวเล็กๆสีสันสวยงาม แต่!!!พิษของมันนะหรอ เพียงแค่หยดเดียว สามารถฆ่าคนได้ถึง 20 คน ถ้าคุณเล่นน้ำที่ทะเลที่มันค่อนข้างอุ่นๆ แล้วเห็นเจ้าตัวนี้อยู่ อย่าคิดที่จะหยิบมันมาเล่นเลยนะครับ แค่ดูมันอยู่ห่างๆก็พอแล้ว เพราะถ้าคุณโดนพิษมันเล่นงานละก็ คุณจะปวดหลังจากนั้นก็จะเริ่มบวม ระบบการหายใจเริ่มล้มเหลว ร่างกายจะคันหยุกหยิก เป็นอัมพาต แล้วก็ตายในที่สุด อย่างไรก็ตามมีรายงานว่ามีแค่ 30 คนเท่านั้นที่ตายเพราะหอยเต้าปูน

อันดับที่ 1 King Cobra - งูจงอาง
          จงอาง หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Ophiophagus hannah เป็นงูพิษที่มีลำตัวยาวที่สุดในโลก ด้วยขนาดโตสุดที่ 5.6 เมตร งูจงอางนั้น เรารู้กันว่าอาหารโปรดของมันก็คือ งู !!! นั่นหมายความว่ามันกินสัตว์ตระกูลเดียวกัน และเพียงแค่โดนมันกัดเพียงครั้งเดียว ก็ทำให้คนตายได้อย่างง่ายๆ และพิษของมันนั้น สามารถฆ่าช้างที่โตเต็มวัยได้เพียงแค่ 3 ชั่วโมง  ที่สำคัญ มันพบได้ทั่วไป ในทวีปเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และในประเทศไทย


ที่มา  :  http://variety.teenee.com/foodforbrain/14778.html
20 เรื่องวิทยาศาสตร์น่ารู้

1. เส้นเลือดในร่างกายมนุษย์มีความยาวรวม 62,000 ไมล์ ถ้านำมันมาเรียงต่อกันเป็นทางยาวจะได้ความยาว ถึง 2.5 เท่าของเส้นรอบวงโลก

2. The Great Barrier Reef (แนวปะการังที่ยาวทีสุดในโลกบริเวณออสเตรเลีย) เป็นโครงสร้างสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีความยาวกว่า 2000 กิโลเมตร

3. โอกาสที่โลกจะถูกโจมตีด้วยอุกาบาตขนาดใหญ่ อยู่ที่ 9300 ปีต่อครั้ง

4. ดาวนิวตรอนขนาดเท่าหัวแม่มือมีน้ำหนักกว่า 100 ล้านตัน

5. พายุเฮอริเคนหนึ่งลูกผลิตพลังงานเท่ากับระเบิดขนาด 1 เมกะตันจำนวน 8000 ลูก

6. คาดว่ามีพยาธิปากขอ ซื่งดูดเลือดเป็นอาหารอยู่ในร่างกายมนุษย์โลกเรา 700 ล้านคน

7. Fred Rompelberg คือผู้ขี่จักรยานด้วยความเร็วที่สุดในโลกด้วยความเร็ว 166.94 ไมล์ต่อชั่วโมง

8. มนุษย์เราสามารถคิดค้นแสงเลเซอร์ที่มีความสว่างกว่าแสงอาทิตย์ 1 ล้านเท่า

9. 65% ของผู้ป่วยออทิสติคส์ เป็นคนถนัดซ้าย

10. Finnish pine tree (ต้นสนชนิดหนึ่งในฟินแลนด์) มีความยาวของรากแต่ละต้นรวมแล้วกว่า 30 ไมล์

11. จำนวนเกลือที่อยู่ในน้ำทะเลทั่วโลกเรา สามารถปกคลุมพื้นผิวทวีปทั่วโลกได้หนากว่า 500 ฟุต

12. กลุ่มแก๊สระหว่างหมู่ดาวในราศีธนู มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์นับหมื่นล้านล้านลิตร

13. หมีขั้วโลกสามารถวิ่งด้วยความเร็ว 25 ไมล์ต่อชัวโมง และกระโดดได้สูงกว่า 6 ฟุต

14. มนุษย์และปลาโลมาสืบสายพันธ์เดียวกันมาตั้งแต่ 60 - 65 ล้านปีก่อน

15. กล้อง infared จับภาพหมีขั้วโลกได้ยากมาก เนื่องจากคุณสมบัติของขนของมัน

16. เฉลี่ยแล้วในหนึ่งปี คนเราจะกินสัตว์จำพวกเห็บลิ้นไร โดยไม่ได้ตั้งใจไป 430 ตัวต่อคนต่อปี

17. รากของต้น Rye(ข้าวชนิดหนึ่งใช้หมักสุรา) สามารถแผ่ขยายไปได้ถึง 400 ไมล์

18. อุณหภูมิบนพื้นผิวของดาวพุธสูงกว่า 430 องศาเซลเซียสในเวลากลางวัน แต่ลดลงต่ำกว่า ติดลบ 180 องศาเซลเซียสในเวลากลางคืน

19. ภายใน 24 ชั่วโมง ต้นโอ๊กขนาดใหญ่ขับน้ำ(ในรูปของไอน้ำ)ออกมา 10 - 25 แกลลอน

20. ผีเสื้อรับรู้รสด้วยขาหลังของมัน โดยประสาทการรับรู้ทำงานโดยการสัมผัส ทำให้มันรู้ว่าใบไม้และดอกไม้ที่มันสัมผัส มีรสชาติอย่างไรและกินได้หรือไม่
 เคล็ดลับ10 ข้อในการจำศัพท์ภาษาอังกฤษ


ความเกี่ยวเนื่อง : ถ้าคุณจัดคำศัพท์ออกเป็นหมวดหมู่ขึ้นอยู่กับความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน ระหว่างศัพท์แล้วเขียนออกมาเป็นแผนผังจะทำให้คุณจำคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น

เขียน : การนำคำศัพท์นั้นมา ใช้จะทำให้คุณจำได้ฝังใจยิ่งขึ้น ลองเขียนแต่งประโยคโดยนำศัพท์ใหม่ที่เรียนนั้นมาประกอบหรือแต่งเรื่องโดยใช้ กลุ่มคำศัพท์หรือสำนวนที่เรียนอยู่

วาดรูป : ดึงวิญญาณศิลปินในตัวคุณออกมาใช้ โดยการวาดรูปที่แสดงถึงศัพท์ที่คุณเรียนอยู่ ภาพที่คุณวาดจะช่วยกระตุ้นความทรงจำถึงศัพท์นั้นในอนาคต

แสดง : แสดงท่าทางประกอบคำศัพท์หรือสำนวนที่คุณกำลังเรียนอยู่ หรือจินตนาการว่าคุณจะแสดงออกอย่างไรในสถานการณ์ที่คุณต้องใช้ศัพท์คำนั้น

สร้าง : ออกแบบ flashcards ศัพท์ภาษาอังกฤษพร้อมความหมายแล้วเปิดอ่านหรือท่องในยามว่าง ทำเล่มใหม่ขึ้นทุกอาทิตย์และอย่าลืมทบทวนอันเก่าไปพร้อมๆ กันด้วย

ความสัมพันธ์ : กำหนดแต่ละสีให้แต่ละคำศัพท์ ความสัมพันธ์ของแต่ละคู่จะช่วยให้คุณจำศัพท์นั้นได้แม่นขึ้นเมื่อนึกถึงคำนั้นในคราวต่อไป

ฟัง : นึกถึงศัพท์คำอื่นที่ ออกเสียงคล้ายๆ กับคำศัพท์ใหม่ที่คุณพยายามเรียนอยู่ ใช้ความสัมพันธ์ตรงจุดนี้ในการช่วยให้คุณจำการออกเสียงของคำใหม่นั้น

เลือก : จำไว้ว่าการเรียนใน หัวข้อที่คุณชอบหรือสนใจจะทำให้คุณรู้สึกว่ามันง่ายขึ้น ฉะนั้นคุณควรใส่ใจในการเลือกคำศัพท์ที่คุณคิดว่ามีประโยชน์หรือน่าสนใจ เพราะแม้แต่กระบวนการเลือกคำที่จะเรียนก็มีผลให้คุณจำได้แม่นและเร็วขึ้น ด้วยเช่นกัน !

ข้อจำกัด : คุณก็รู้ว่ามัน เป็นไปไม่ได้หรอกที่คนเราจะจำศัพท์ที่มีอยู่ในดิกชันนารี่ทั้งหมดได้ในวัน เดียว เพราะฉะนั้นจำกัดการเรียนศัพท์ใหม่แค่วันละ 15 คำก็พอแล้ว ซึ่งถ้าพยายามจำให้มากคำเกินไปกว่านี้แทนที่มันจะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจกลับ จะทำให้คุณสมองตื้อแทน
 

สังเกต : พยายามสังเกตหาคำศัพท์ที่คุณกำลังเรียนอยู่เมื่ออ่านหรือฟังภาษาอังกฤษ


ที่มา :  http://www.ticthai.com/webboard 


ความจำแย่แก้ได้ด้วย 4 วิธี

วัยที่เพิ่มขึ้นบางครั้งอาจทำให้เริ่มหลงลืม ปัญหานี้บรรเทาได้ด้วยเทคนิค 4 ข้อ แนะวัยทำงานปฏิบัติดี วัยเรียนปฏิบัติเลิศ


วิธีแรก โฟกัส สายตา โดยนั่งจ้องวัตถุ หรือ เหตุการณ์ตรงหน้า จดจำรายละเอียดให้มากที่สุด นานประมาณ 3 นาที จากนั้น ละสายตา แล้ววาดสิ่งที่เห็นบนกระดาษ เมื่อเสร็จตรวจดูว่ามีสิ่งใดตกหล่นไปหรือไม่ ฝึกสม่ำเสมอจะช่วยพัฒนาความจำระยะสั้น บริหารสมอง และเสริมประสิทธิภาพความจำด้านสายตา


วิธีต่อมา รับประทานอาหารอุดมวิตามินซี, อี และเบต้าแคโรทีน โดยเฉพาะส้ม องุ่น เบอร์รี ผักสีเขียว ช่วยปกป้องเนื้อเยื่อสมองจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เซลล์สมองเสื่อม ทั้งนี้ ผลวิจัยในต่างประเทศพบว่า ผู้บริโภควิตามินซีสูง มีผลการทดสอบด้านสมาธิ ความจำ และการคำนวณดีที่สุด


ตามด้วย การทำกิจกรรมท้าทายความคิด เมื่ออายุเริ่มเข้าเลขสาม สมองจะเริ่มทำงานช้าลง ดังนั้น ควรหางานอดิเรกยามว่างที่สนุกสนานทำ เช่น เต้นแทงโก้ เรียนภาษาใหม่ ต่อจิ๊กซอว์ เกมส์ปริศนาอักษรไขว้ เล่นปิงปอง เป็นต้น ช่วยพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของสมอง และความจำได้ดี


สุดท้าย นอนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง เซลล์ประสาทจะสื่อสารกันได้มากขึ้น ส่งผลต่อการเรียนรู้ และความจำ 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และ thaihealth.or.th